ปัจจุบันนี้การเลือกซื้อประกันสุขภาพทำได้ไม่ยาก เพราะเมื่อก่อนส่วนใหญ่มักจะซื้อกับตัวแทนโดยตรง แต่ยุคนี้คนมีเวลาน้อยลงก็อาจจะเลือกซื้อประกันสุขภาพออนไลน์แทน แต่ไม่ว่าจะเลือกซื้อแบบใด ประกันสุขภาพนั้นมีเงื่อนไขและการคุ้มครองที่แตกต่างกัน แล้วจะเลือกซื้ออย่างไรให้เหมาะสม มาดูกันค่ะ
- มีการคุ้มครองครอบคลุม ควรเลือกประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งแบบผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอกและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เช่น ค่าคลอด ค่าห้องพัก ค่าทันตกรรมรวมไปถึงค่ารักษาพยาบาลแบบต่อเนื่องในกรณีที่ออกจากโรงพยาบาลแล้วแต่ยังต้องนัดกลับมารับยาเพิ่มเติมหรือติดตามอาการ (เช่น ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลหลักจากออกโรงพยาบาลแล้ว 30-60 )
- เบี้ยประกันเหมาะสม ควรเลือกทำประกันสุขภาพออนไลน์ที่สามารถปรับแต่งความคุ้มครองเองได้ เพราะจะช่วยให้ได้แผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการมากทีสุด ทั้งในแง่การคุ้มครองและเบื้อประกันที่ต้องจ่าย
- ประเภทของค่ารักษาพยาบาล มี 2 แบบคือ แยกจ่ายกับเหมาจ่าย สำหรับแบบแยกจ่ายจะยุ่งยากกว่า เพราะมีการจัดหมวดหมู่และจำกัดวงเงินเอาไว้ หากมีค่าใช้จ่ายเกินวงเงิน ก็ต้องจ่ายส่วนต่างเอง แต่ว่าถ้าเป็นแบบเหมาจ่าย จะได้ความคุ้มครองที่สูงมากกว่า
- ความยากง่ายในการซื้อ แน่นอนว่าคงไม่มีใครชอบทำอะไรที่ยุ่งยากหรือต้องกรอกข้อมูลมากมายอย่างแน่นอน ดังนั้นการที่หน้าเว็บไซต์ของบริษัทประกันใช้งานง่าย ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ควรพิจารณา ทั้งนี้ไม่ใช่ทุกคนที่จะซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ได้ โดยเฉพาะคนที่เคยป่วยมาก่อน อาจจะต้องรอ 30-120 วัน โดยระยะเวลานี้จะเรียกกันว่าระยะรอคอย เป็นสิ่งที่บริษัทประกันกำหนดขึ้นมาเพื่อป้องกันการเรียกค่าสินไหมจากสภาพที่เคยเป็นมาก่อนจะทำประกัน ซึ่งจะเร็วช้าแค่ไหน ขึ้นอยู่กับที่บริษัทประกันกำหนด
สรุปได้ว่าหากจะซื้อประกันสุขภาพออนไลน์ ปัจจัยหลักที่ควรนำมาคิดก่อนตัดสินใจซื้อคือ ความคุ้มครอง เบี้ยประกัน ประเภทของค่ารักษาพยาบาลและความง่ายในการซื้อ อย่างไรก็ตามก่อนจะซื้อ อย่าลืมศึกษารายละเอียดและเงื่อนไขของกรมธรรม์อย่างละเอียด เปรียบเทียบกันจากหลายบริษัท จะช่วยให้เลือกประกันสุขภาพออนไลน์ที่เหมาะสมกับความต้องการมากที่สุดได้ หากใครที่กำลังมองหาแผนประกันสุขภาพออนไลน์ที่ให้ความคุ้มครองที่เหมาจ่าย เราขอแนะนำ Finsurance แผนประกันสุขภาพเหมาจ่ายที่ให้ความคุ้มครองครบ จะอุบัติเหตุเล็กใหญ่ โรคร้ายต่างๆ โรคฮิตทั่วไป มะเร็งทุกระยะ ก็พร้อมดูแลด้วยค่ารักษาแบบเหมาจ่ายสูงสุดถึง 10 ล้านบาทต่อปีด้วย ค่าห้องสูงสุด 9,000 บาทต่อวัน พร้อม OPD สูงสุด 50,000 บาทต่อปี ไม่ต้องซื้อแยก ใบเดียวครบพร้อมโรงพยาบาลและสถานพยาบาลในเครือข่ายมากกว่า 364 แห่งทั่วประเทศแบบไม่ต้องสำรองจ่าย